กองทัพเรือ นำคณะสื่อมวลชนสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของ ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย

Release Date : 21-10-2015 16:46:00
กองทัพเรือ นำคณะสื่อมวลชนสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของ ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย

วันนี้ (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๘) เวลา ๑๐.๐๐ น.  กองทัพเรือ โดย นาวาเอก เบญจมาพร วงศ์นครสว่าง  ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้นำคณะสื่อมวลชนรับฟังการบรรยายสรุปและร่วมสังเกตการณ์ การตรวจพื้นที่ทะเลของ ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย (ศอ.ยฐ.) ในพื้นที่ทะเลอันดามัน

ปัญหาของผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย นับได้ว่าเป็นปัญหาในระดับภูมิภาคและในระดับโลก ในส่วนของประเทศไทย รัฐบาลมีความห่วงใยในด้านมนุษยธรรมของผู้โยกย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองบัญชาการกองทัพไทยจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย หรือ ศอ.ยฐ. (Operation Center For Patrol and Humanitarian Assistance to lrregular Migrants in the Indian Ocean (OCPHAM) มีหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติการลาดตระเวน และช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของผู้โยกย้าย ถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงหากมีการร้องขอในการร่วมดำเนินการของมิตรประเทศทาง ศอ.ยฐ.ก็จะดำเนินการควบคุมการปฏิบัติการของมิตรประเทศด้วย
 
ศอ.ยฐ.ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา โดยในส่วนของกองทัพเรือ ได้มีการตั้ง ศูนย์อำนวยการลาดตระเวนและช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของกองทัพเรือ โดยจัดกำลังหลักจากทัพเรือภาคที่ ๓ และใช้เรือหลวงอ่างทองฐานปฏิบัติการลอยน้ำในทะเลอันดามัน บริเวณพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ความช่วยเหลือ หากพบเจอเรือผู้อพยพ ทั้งอาหาร น้ำ ด้านการแพทย์ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการดำเนินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่ผู้อพยพต้องการ  ทั้งนี้ กลุ่มผู้อพยพมิได้มีความประสงค์ที่จะเข้ามาในประเทศไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม  ทั้งนี้ ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เริ่มข้าสู่ฤดูมรสุม ประกอบกับทะเลมีคลื่นลมแรง เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของกลุ่มผู้อพยพ  ดังนั้นในห้วงระยะเวลาดังกล่าว จึงเป็นช่วงที่ไม่ค่อยพบการอพยพของผู้ที่ต้องการโยกย้ายถิ่นฐาน แต่ทางกองทัพเรือก็ยังคงจัดกำลังออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง และจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นช่วงที่ใกล้จะหมดฤดูมรสุม จึงมีแนวโน้มที่ผู้อพยพจะเริ่มเดินทางเพื่อโยกย้ายถิ่นฐานอีกครั้งหลังจากที่ได้หยุดพักในช่วงฤดูมรสุม (ที่มา : สลก.ทร.)