สหภาพยุโรปประกาศปลดใบเหลือง ผลสำเร็จในการทำประมงผิดกฎหมายของไทย

Release Date : 10-01-2019 00:00:00
สหภาพยุโรปประกาศปลดใบเหลือง ผลสำเร็จในการทำประมงผิดกฎหมายของไทย

          จากการที่ประเทศไทยได้รับประกาศแจ้งเตือนจากสหภาพยุโรป “เรื่องการทำประมงผิดกฎหมาย” โดยขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือ IUU (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing)

          รัฐบาลจึงจัดตั้ง “ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.)” ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ด้วยการใช้กลไกกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือที่มีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ และบูรณาการทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันแก้ไขและยกระดับการประมงไทยสู่มาตรฐานสากล การทำประมงผิดกฎหมายฯ เป็นการทำประมงที่ขัดขวาง ละเมิดหรือทำลายมาตรการอนุรักษ์จัดการในพื้นที่ประมงและการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเก็บรวบรวมข้อมูลการประมงหรือไม่รายงานข้อมูลเกี่ยวกับเรือประมง ตลอดจนรายงานข้อมูลอันเป็นเท็จแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบของรัฐและองค์กรจัดการประมงระดับภูมิภาค  ขณะที่ทั่วโลกต่างหันมาสนใจเรื่องการทำประมงผิดกฎหมายฯ เนื่องจากปัจจุบันมีความต้องการบริโภคสัตว์น้ำมากขึ้น แม้แต่ในเขตทะเลหลวงได้ทำประมงมากเกินขนาดจนประชาคมระหว่างประเทศเกรงว่าจะเกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร และมีการทำลายทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไป อีกทั้งการทำประมงผิดกฎหมายฯ มักเกี่ยวข้องกับปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ การฟอกเงิน การใช้แรงงานบังคับด้วย ซึ่งสหภาพยุโรปในฐานะประเทศผู้นำเข้าและบริโภคสินค้าประมงรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ริเริ่มให้ทุกประเทศที่ส่งออกสินค้าประมงไปยังสหภาพยุโรป แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

  

               สหภาพยุโรป หรือ EU  ได้ให้ “ใบเหลือง” กับประเทศไทย จากปัญหา IUU ที่เป็นกฎระเบียบของ EU ที่ถูกร่างขึ้นมาเพื่อขจัดปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย ไร้การรายงาน ไร้การควบคุม (IUU Fishing) โดยใบเหลืองเป็นใบแจ้งเตือนอย่างเป็นทางการที่บ่งชี้ว่าไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม อาจจะนำไปสู่การให้ “ใบแดง”ที่เป็นคว่ำบาตรการนำเข้าสินค้าประมงจากประเทศที่เพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายดังกล่าว หากถูกคว่ำบาตรดังกล่าวจริง ประเมินว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสินค้าประมงไทย ในตลาด EU จะอยู่ที่ ๒๐๐ – ๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรืออาจสูงถึง ๕๐๐ ล้านดอลลาร์ หากผู้ประกอบการฟาร์มกุ้ง ไม่สามารถพิสูจนฺได้ว่า ปลาป่น ที่ใช้เป็นอาหารกุ้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับ IUUข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจ กล่าวคือ เมื่อปีคริสต์ศักราช ๒๐๑๔ ประเทศไทยถือเป็นผู้ส่งออกสินค้าประมงรายใหญ่เป็นอันดับ ๓ ของโลก มีมูลค่าการส่งออกปลา กุ้ง ปลาหมึก และอาหารทะเลแปรรูปที่ส่งไปยัง EU สูงถึง ๗๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี (คิดเป็นร้อยละ ๑๒ ของมูลค่าส่งออกสินค้าประมงโดยรวมของไทย) จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ภายใต้รัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา    เพื่อแก้ไขปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยอย่างจริงจังดังกล่าว

               จนเมื่อวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๒ คณะกรรมาธิการยุโรปออกแถลงการณ์ยืนยันได้ปลดใบเหลืองด้านการประมงของไทยและถอนรายชื่อไทยออกจากกลุ่มประเทศที่ถูกเตือนเรื่องความบกพร่องในการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายฯและที่สำคัญเป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้รับพิจารณาปลดใบเหลืองในครั้งนี้ เนื่องจากการพัฒนาครั้งใหญ่ในการกำกับดูแลการทำประมงให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

                         ส่วนการดำเนินการระยะต่อไปทั้งสหภาพยุโรปและไทยเห็นชอบร่วมกันในแผนงานความร่วมมือเพื่อให้ไทยบรรลุการเป็นประเทศปลอดประมงผิดกฎหมายฯ หรือ IUU-free ได้โดยสมบูรณ์ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในระดับอาเซียนเพื่อแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายฯ ร่วมกัน ด้วย ๓ แผนหลัก ดังนี้

               ๑. จัดตั้งคณะทำงานไทย-สหภาพยุโรป เรื่องการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายฯ

               ๒. จัดตั้งคณะทำงานร่วมอาเซียนเพื่อป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมายฯ หรือ ASEAN IUU Task Force เนื่องจากไทยมีประสบการณ์การแก้ไขปัญหาการทำประมง        ผิดกฎหมายฯ มาตลอด ๔ ปีที่ผ่านมา สามารถแบ่งปันและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศอื่นๆ    ที่ประสบปัญหาเดียวกันได้โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน

               ๓. ส่งเสริมการประมงปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงจากการทำประมงผิดกฎหมายฯ หรือ IUU-free Thailand ตามที่ไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการประมงปลอดจากสัตว์น้ำและสินค้าประมงจากการทำประมงผิดกฎหมายและนำเสนอการดำเนินงานด้านการออกใบรับรองการจับสัตว์น้ำของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางที่ไทยจะศึกษาเพื่อนำไปสู่ IUU-free Thailand ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมต่อไป

               รัฐบาลขอขอบคุณทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายฯ นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยได้ใบเหลืองเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๘ ทั้งชาวประมง ผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันเสียสละ อดทนและทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ   ทางทะเลและปฏิบัติตามหลักสากล จนส่งผลให้ผู้ประกอบการประมงและชาวประมงพื้นบ้านได้เห็นถึงประโยชน์ที่ทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันมา และนับจากนี้สถานการณ์ประมงของไทยจะค้าขายได้มากขึ้นเพราะนานาประเทศมีความเชื่อมั่น รัฐบาลขอยืนยันว่าจะยกระดับมาตรฐานการประมงไทย    ทุกด้านอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ไทยบรรลุการเป็นประเทศปลอดประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมหรือ IUU-free Thailand อย่างสมบูรณ์  (ที่มา :สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์)